ทองคำไทยขึ้นทำจุดสูงสุดรอบ 9 ปี เชื่อเห็นแตะ 28,000 บาทได้แน่ หลังอยู่ในภาวะทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดเวลา

ทองคำไทยขึ้นทำจุดสูงสุดรอบ 9 ปี เชื่อเห็นแตะ 28,000 บาทได้แน่ หลังอยู่ในภาวะทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดเวลา
นายพิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า ทิศทางราคาทองคำ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม จนถึงปัจจุบันปรับราคาขึ้นมากว่า 1,250 บาท โดยราคาทองแท่งขายออกอยู่ที่บาทละ 27,300 บาท รับซื้ออยู่ที่ 27,200 บาท ซึ่งถือเป็นการปรับราคาขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 9 ปี และราคาเคลื่อนไหวในโซนขาขึ้น ทำระดับสูงสุดใหม่ตลอดเวลา (ออล ไทม์ ไฮ) สาเหตุเพราะมีปัจจัยสนับสนุนจากความเสี่ยงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะความไม่แน่นอนของสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่สร้างความกังวลให้กับนักลงทุน หลังจากตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในหลายประเทศ ความตึงเครียดด้าน ภูมิรัฐศาสตร์ของระหว่างหลายประเทศ สงครามการค้า (เทรดวอร์) ระหว่างสหรัฐและจีน รวมถึงความกังวลความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทำให้นักลงทุนหันมาสนใจถือทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงมากขึ้น รวมถึงกองทุนทองคำในสหรัฐ และในหลายประเทศ มีความต้องการซื้อทองคำเข้าสะสมเพิ่มอย่างต่อเนื่อง จึงสนับสนุนให้ราคาทองคำทั้งในและต่างประเทศปรับขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ยังไม่เห็นแนวโน้มว่าราคาจะย่อตัวลง

นายพิบูลย์ฤทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้รอราคาทองคำปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ราคาทองสปอตเคยขึ้นไปถึงระดับ 1,920 เหรียญสหรัฐ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดที่เคยขึ้นไปแตะแล้ว โดยขณะนี้ทองคำสปอตอยู่ที่ 1,822 เหรียญสหรัฐ เหลืออยู่เพียง 100 เหรียญสหรัฐเท่านั้น ราคาทองคำสปอตก็จะวิ่งไปถึงจุดสูงสุดเดิม ซึ่งเชื่อว่ามีโอกาสได้เห็นอย่างแน่นอน เนื่องจากในช่วงครึ่งแรกของปี ราคามองคำสปอตกระโดดขึ้นมาแล้ว 300-400 เหรียญสหรัฐ ส่วนราคาทองคำไทยเชื่อว่ามีโอกาสได้เห็นแตะระดับสูงสุดที่ 28,000 เหรียญสหรัฐแน่นอน

“ขณะนี้มีปัจจัยเรื่องค่าเงินบาทอ่อนค่าเข้ามาช่วยสนับสนุนราคาทองคำขึ้นอีกทาง เนื่องจากหากประเมินตั้งแต่ต้นปี 2563 ที่ผ่านมา ค่าเงินบาทเปิดมาอยู่ที่ระดับ 30 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ก่อนจะอ่อนค่าลงแตะระดับ 32 บาทต่อเหรียญสหรัฐ เพราะได้รับกระทบจากโควิด-19 แม้จะปรับแข็งค่าขึ้นมาบ้าง แต่ก็สลับอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้สินทรัพย์ปลอดภัยมีความน่าสนใจในการนำเงินไปลงทุน เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านอันตราแลกเปลี่ยนมากกว่าเดิม” นายพิบูลย์ฤทธิ์กล่าว

นายพิบูลย์ฤทธิ์กล่าวว่า ปัจจัยที่ต้องติดตาม เป็นเรื่องการวิจัยและทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ว่าจะมีพัฒนาการที่ดีมากหรือน้อยเท่าใด เพราะหากวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสมีความคืบหน้าที่ชัดเจน ว่าจะสามาระใช้รักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือจะเริ่มฉีดได้ในช่วงใด จะเป็นปัจจัยเสี่ยงให้ทองคำถูกเทขายทำกำไรออกมา รวมถึงต้องติดตามการซื้อและขายของกองทุนทองคำของหลายประเทศทั่วโลกด้วย เพราะการที่มีความต้องการทองคำเพิ่มขึ้นจากความต้องการซื้อสะสมของกองทุนต่างๆ จะผลักดันให้ราคาทองคำปรับขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง ด้านกลยุทธ์ที่แนะนำในการลงทุน ในภาวะที่ดอกเบี้ยต่ำมากๆ นักลงทุนที่มีเงินทุนค่อนข้างมาก และยังไม่ได้สะสมทองคำในช่วงที่ผ่านมา ให้จับตาดูหากทองคำสอปตมีการย่อตัวลงมาที่ระดับ 1,800 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 26,500-27,000 บาทต่อบาททองคำ ให้สามารถทยอยเข้าสะสมเป็นช่วงๆ ได้ แต่หากราคาทองคำสปอตหลุดระดับ 1,750 เหรียญสหรัฐ จะเป็นแนวโน้มที่ไม่ดีมากนักของทองคำ

เครดิตข่าวโดย: มติชน
เรื่องอื่นๆ

กรมที่ดิน

ก่อนหน้า