‘สพฐ.’ ทุ่มงบ 2.1 พันล. จ้างธุรการ ‘บุญรักษ์’ หวังรัฐบาลใหม่สานต่อ ชี้เพิ่มคุณภาพการศึกษาจริง

‘สพฐ.’ ทุ่มงบ 2.1 พันล. จ้างธุรการ ‘บุญรักษ์’ หวังรัฐบาลใหม่สานต่อ ชี้เพิ่มคุณภาพการศึกษาจริง

เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ปีการศึกษา 2562 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ดำเนินการตรวจสอบ จัดสรรงบประมาณเพื่อใช้จ่ายในการดำเนินโครงการต่างๆ อย่างรอบคอบ โดยจัดประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ร่วมกับผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) และผู้อำนวยการสถานศึกษาทั่วประเทศ ประมาณ 50,000 คน ทำความเข้าใจเรื่องการจัดสรรงบประมาณต่างๆ ที่โรงเรียนจะได้รับ เช่น งบเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ การของบใช้จ่ายในโครงการอาหารกลางวัน การจัดสรรค่าพาหนะรับส่งนักเรียน กรณียุบรวมและเลิกโรงเรียนขนาดเล็ก เป็นต้น ซึ่งในส่วนนโยบายการจ้างธรุการโรงเรียนครบวงจร “ลดภาระครู เพิ่มคุณภาพ” ปีการศึกษา 2562 นั้น ข้อมูล ณ ปัจจุบัน โรงเรียนในสังกัด สพฐ.มีจำนวน 29,715 แห่ง ต้องจ้างธุรการโรงเรียนจำนวน 29,715 คน ซึ่งในปีงบประมาณ 2562 สพฐ.ได้รับงบประมาณจากรัฐ ในการจ้างธุรการจำนวน 11,801 อัตรา ได้รับเงินจำนวน 2,044,523,250 บาท แต่สพฐ.ตั้งเป้าหมายจะจ้างธุรการให้ครบทุกโรงเรียน ซึ่งหากจะจ้างให้ธุรการให้ครบนั้น ต้องใช้งบเพิ่มอีก 2,101,882,500 บาท ซึ่งสพฐ. ได้บริหารงบประมาณจากโครงการต่างๆ เข้ามาใช้จ่ายในการจ้างธุรการครบทุกโรงเรียนแล้ว

นายบุญรักษ์ กล่าวต่อว่า ปีการศึกษา 2562 สพฐ.ได้เจียดจ่ายเงินจากโครงการต่างๆ โดยได้รับความร่วมมือจากผู้อำนวยการสำนักที่รับผิดชอบงานด้านงบประมาณ มาศึกษาว่าโครงการใดของ สพฐ.สามารถปรับลดขนาดลงได้บ้าง หรือโครงการไหนที่จะปรับเปลี่ยนวิธีการ แต่เป้าหมายยังเหมือนเดิม เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะการอบรมต่างๆ สามารถใช้การประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ได้หรือไม่ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้งบประมาณที่ใช้ในการจ้างธุรการ สพฐ.ได้จัดสรรให้โรงเรียนครบหมดแล้ว

“แต่ในปีการการศึกษา 2563 สพฐ.ไม่มั่นใจว่าการเสนอของบฯ ในการจ้างธรุการจะผ่านหรือไม่ ผมมองว่าโครงการนี้ เป็นโครงการที่ดี ครูกว่า 90% สนับสนุนให้มีการจ้างเพราะเมื่อจ้างธรุการแล้ว ครูมุ่งมั่นและสนใจในการสอน ส่งผลต่อการพัฒนาการศึกษาอย่างแท้จริง ดังนั้นแม้ไม่ได้รับงบฯ โดยตรง สพฐ.ต้องมาปรับแผนโครงการต่างๆ เพื่อให้ได้งบฯ มาจ้างธุรการต่อไป เพราะเรื่องอื่นเราลดลงได้ แต่เรื่องธุรการนั้นเป็นโครงการที่สำคัญ ควรจะมีอยู่ต่อไป ดังนั้นไม่ว่าใครจะเป็นเลขาธิการ กพฐ.คนใหม่ หรือมีรัฐบาลใหม่เข้ามา หากศึกษาดูต้องรู้ว่าโจทย์คืออะไร และอะไรคือคำตอบที่จะช่วยครูลดภาระอย่างจริงจัง เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาต่อไป ส่วนงบฯ การจัด “โครงการพัฒนาครูรูปแบบครบวงจร (คูปองพัฒนาครู)” นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ยืนยันว่าได้เสนอของบฯ เพื่อจัดอบรมคูปองพัฒนาครูในแผนปีงานประมาณ 2563 ของ ศธ.แล้ว เพราะโครงการนี้ถือเป็นโครงการดี ครูได้รับการพัฒนา สมควรที่สานต่อไป”นายบุญรักษ์ กล่าว

เครดิต : www.matichon.co.th