30 ก.ค. 2563
ร้องถูกนายทุนต่างชาติ หลอกขายโครงการวิลล่า เกาะสมุย กว่า 1 พันล้าน
วันที่ 29 ก.ค. นายชัยสิทธิ์ ลักษณะศิริศักดิ์ ทนายความที่ได้รับมอบหมายจากลูกความที่เป็นชาวต่างชาติ ได้หอบหลักฐานลูกความชาวจีน จำนวนกว่า 10 ราย ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับ นายธีระพงศ์ ช่วยชู นายอำเภอเกาะสมุย ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรม อ.เกาะสมุย
หลังลูกความได้ซื้อโครงการวิลล่าหรูบนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และถูกเจ้าของโครงการชาวต่างชาติ หลอกขายโครงการมูลค่าความเสียหายเกือบ 1,000 ล้านบาท
โดย นายชัยสิทธิ์ กล่าวว่า ลูกความที่เป็นชาวจีน ได้ซื้อโครงการบ้านพักตากอากาศ วิลล่า และ ได้ทําสัญญากับบริษัทแห่งหนึ่งที่มีชาวต่างชาติ ประกอบกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ให้บริการรับสร้างบ้าน และซื้อขาย ให้เช่าบ้านพร้อมที่ดิน โดยการเสนอขายโครงการบ้านพักตากอากาศที่ตั้งอยู่บนเกาะสมุยหลายโครงการ
ลูกความได้พบเห็นเว็บไซต์และเข้าทําสัญญาจะซื้อขายและสัญญาเช่ากับบริษัท ซึ่งตั้งอยู่บนที่ดิน 5 แปลง โดยมีหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ประเภทโฉนด ที่ดินตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินและก่อสร้างวิลล่าและสัญญาเช่า รายละเอียดการซื้อและเช่าโครงการบริเวณ ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
"แต่เมื่อถึงหนดส่งมอบบ้านและที่ดินในเดือน ธ.ค. 2562 ปรากฏว่าบริษัทดังกล่าว ไม่สามารถปรับปรุงที่ดินและก่อสร้างวิลล่า รวมไปถึงการขึ้นโครงสร้างของสิ่งสาธารณูปโภคต่าง ๆ ให้ได้ตามกําหนดเวลาในสัญญาที่ได้ตกลงและโฆษณาไว้ในเว็บไซต์ได้แต่อย่างใด พบเพียงพื้นที่ดินว่างเปล่า มีการลงเสาเข็มและการวางโครงเหล็กแบบไม่แข็งแรงไว้เพียงร้อยละ 5 ของพื้นที่ก่อสร้างทั้งหมด ไม่พบคนงานก่อสร้าง ไม่มีพฤติการณ์ใด ๆ ที่แสดงให้เห็นว่าจะมีการก่อสร้างต่อ อีกทั้งการก่อสร้างโครงการก็ปล่อยเวลาให้เนิ่นนานกว่ากําหนด"
© Matichon ภาพประกอบข่าว
นอกจากนี้ยังพบความผิดปกติของโครงการ เช่น เปิดบริษัทขึ้นมาและทำโครงการก่อสร้างและจัดสรรที่ดินโดยไม่ได้ขออนุญาตจัดสรรที่ดิน และไม่พบการขออนุญาตต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งตามปกติการที่จะทำโครงการจัดสรรที่ดินขายโครงการ ต่อผ่านการขออนุญาตต่อสิ่งแวดล้อม ก่อนที่จะเสนอขายให้กับลูกค้า ซึ่งลักษณะดังกล่าวเป็นการหลอกลวงประชาชน ให้คนเข้าไปซื้อ
ประเด็นที่สำคัญคือ บริษัทต่างชาติรายนี้ ได้โฆษณาชวนเชื่อให้ชาวต่างชาติเข้ามาซื้อโครงการ โดยอ้างว่าถ้าซื้อไปแล้วจะสามารถทำธุรกิจต่าง ๆ และมีผลตอบแทนได้จากทางโครงการ และทางโครงการจะช่วยทำกำไรกับโครงการ แต่ทั้งหมดเป็นการหลอกลวงให้มาซื้อโครงการเท่านั้น เมื่อทวงถามไป ทางผู้บริหารบริษัทที่เป็นชาวต่างชาติเป็นผู้บริหารได้เพิกเฉยมาตลอด
ทนายความ กล่าวต่อว่า ล่าสุดได้เข้าแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวนที่ สน.ลุมพินี โดยมีผู้เสียหาย 7-8 คน ในเบื้องต้นมีมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมลูกค้าที่รายอื่นที่เสียหายอีกจำนวนมาก ซึ่งหากรวมมูลค่าความเสียหายกับลูกค้ารายอื่นที่ซื้อโครงการนี้เช่นกัน มีความเสียหายเกือบ 1,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามหลังได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับทางเจ้าของบริษัทที่ สน.ลุมพินี และทางพนักงานสอบสวนได้ออกหมายจับ ปรากฏว่ามีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่อ้างว่าเป็นนายเวรของ รองผบ.ตร. ท่านหนึ่ง ได้วิ่งเต้นคดีให้กับเจ้าของบริษัทที่เป็นชาวต่างชาติ สั่งการให้อำนวยความสะดวกให้กับทางผู้ต้องหาเพื่อไม่ให้มีความผิด ทำให้ตนได้หอบหลักฐานเดินทางลงพื้นที่มาร้องต่อทางนายอำเภอเกาะสมุย เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับลูกความ
เครดิตข่าวโดย: khaosod