สหรัฐกวาดจับม็อบ 1,400 คน ประท้วงผิวสีลุกลามทวีคูณ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองมินนีแอโพลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ว่าสถานการณ์ประท้วงในเมืองหลายใหญ่หลายแห่งของสหรัฐยังคงมีความรุนแรง สืบเนื่องจากการเสียชีวิตของนายจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสีวัย 46 ปี ซึ่งถูกตำรวจผิวขาวที่เมืองมินนีแอโพลิส ในรัฐมินนิโซตา ใช้เข่ากดลงไปที่คอนานกว่า 8 นาที ระหว่างทำการจับกุมฟลอยด์ฐานพยายามใช้ธนบัตรปลอมซื้อสินค้า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ทั้งนี้ กรุงวอชิงตัน เมืองหลวงของสหรัฐ เป็นหนึ่งในเมืองใหญ่แห่งล่าสุดที่ระดมกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิลงพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์ความไม่สงบ หลังเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมามีประชาชนหลายร้อยคนชุมนุมประชิดรั้วทำเนียบขาว จนเกิดการกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่ซีเครต เซอร์วิส ซึ่งเป็นหน่วยอารักขาประธานาธิบดี และต่อมายังมีการประท้วงหน้ากระทรวงยุติธรรมด้วย เนื่องจากผู้ชุมนุมไม่พอใจการทวีตข้อความและการแสดงท่าทีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งได้รับเสียงวิจารณ์ว่ายิ่งเป็นการกระตุ้นให้เกิดความรุนแรง

อนึ่ง ข้อมูลจากสำนักข่าวเอพีระบุว่า นับตั้งแต่คืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ประท้วงเกือบ 1,400 คน ในเมืองใหญ่ 17 แห่งของสหรัฐ ด้านเทศบาลเมืองแนชวิลล์ เมืองเอกของรัฐเทนเนสซี ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจากเหตุไม่สงบทางสังคม หลังมีผู้ประท้วงจุดไฟเผาพื้นที่ส่วนหนึ่งของสำนักงานศาลประจำเมือง ส่งผลให้ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตาและยิงกระสุนยางควบคุมฝูงชน

ด้านนายบิล ลี ผู้ว่าการรัฐเทนเนสซี ลงนามคำสั่งฉุกเฉินด้านความมั่นคง ให้เจ้าหน้าที่กองกำลังพิทักษ์าตุภูมิลงพื้นที่ช่วยตำรวจคุมสถานการณ์ประท้วง "ที่ผิดกฎหมาย"

ในเวลาเดียวกัน นางลอรี ไลธ์ฟูต นายกเทศมนตรีเมืองชิคาโก ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของรัฐอิลลินอยส์ ประกาศเคอร์ฟิวระหว่างเวลา 21.00 น. ถึง 06.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ระหว่างคืนวันเสาร์ถึงช่วงเช้าของวันอาทิตย์ที่ 31 พ.ค.นี้ "เป็นอย่างน้อย" เพื่อให้ตำรวจจัดการกับผู้ที่ก่อความรุนแรง และนายแมตต์ แฮนค็อก นายกเทศมนตรีเมืองเดนเวอร์ ในรัฐโคโลราโด ลงนามบังคับใช้เคอร์ฟิวระหว่างเวลา 20.00 น. ถึง 05.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น.

เครดิตภาพ : AFP, AP

เครดิตข่าวโดย: เดลินิวส์