15 พ.ค. 2563
หม่อมเต่าวางแผน จ่อปรับใหญ่กองทุนประกันสังคม
เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน ได้ไปติดตามข้อสั่งการที่ให้จัดตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ (โควิด-19) สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ถนนติวานนท์ จ.นนทบุรี ทั้งนี้ก่อนการติดตามงานได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ดประกันสังคม) (ชุดที่ 13) และคณะที่ปรึกษา ซึ่งนับเป็นครั้งแรกหลังจากที่ ม.ร.ว.จัตุมงคล ได้เข้ารับตำแหน่งรมว.แรงงาน ทั้งนี้ในการร่วมรับประทานอาหารดังกล่าว ได้มีการหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกันตน มาตรา 33 ในสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ด้วย
ม.ร.ว.จัตุมงคล เปิดเผยว่า การพบปะและร่วมรับประทานอาหารกับบอร์ดประกันสังคมครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรก เป็นการเข้าไปทำความรู้จักกับบอร์ดทุกคน เพราะถือเป็นผู้มีประสบการณ์ มีความรู้ และมีความเข้าใจในการบริหารงานประกันสังคม ซึ่งบรรยากาศในวันนี้เป็นไปด้วยดี
"ผมเข้าไปทำความรู้จักกับทุกคน และได้มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนข้อมูล พร้อมรับฟังความคิดเห็นจากกรรมการทุกคนที่มีทั้งฝ่ายนายจ้าง ฝ่ายลูกจ้าง และข้าราชการประจำ จากการพูดคุยมีทั้งความคิดเห็นที่สอดคล้องกัน และบางประเด็นแตกต่างกัน ผมก็รับฟังทุกคน บรรยากาศเป็นไปด้วยดี" ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการหารือถึงการให้ความช่วยเหลือผู้ประกันตน โดยเพิ่มการจ่ายเยียวยาร้อยละ 75 จากอัตราค่าจ้างรายวัน แต่ไม่เกิน 90 วัน และการลดส่งเงินสมทบฝ่ายนายจ้าง/สถานประกอบการ เหลือร้อยละ 1 ด้วยหรือไม่ ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวว่า ยังไม่ได้ลงลึกในรายละเอียดเรื่องการจ่ายร้อยละ 75
"แต่มีการพูดคุยว่าถ้าดูแลผู้ประกันตน 1 ล้านคน ที่เดือดร้อนในระยะ 3 เดือน กองทุนประกันสังคมยังมีเงินที่จะดูแลในส่วนนี้ได้อย่างสบาย ไม่ติดขัด แต่ถ้าต้องจ่ายเกิน 3 เดือน จะต้องมีการบริหารจัดการอย่างรุนแรง ส่วนเรื่องการลดเงินสมทบฝ่ายนายจ้างนั้น มีการแสดงความคิดเห็นจากฝ่ายนายจ้างว่าหากสามารถลดให้เหลือร้อยละ 1 ได้ก็จะช่วยได้มาก แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็น ผมก็รับฟัง" ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าว
นอกจากนี้ ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวว่า จากการรับฟังข้อมูลของบอร์ดประกันสังคม ชื่นชมกรรมการบริหารกองทุนซึ่งที่ผ่านมาได้ดูแลและบริหารกองทุนเป็นอย่างดี แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดปัญหาโควิด-19 จึงไม่มีแผนรองรับ ทั้งนี้ ทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าเนื่องจากประกันสังคมตั้งขึ้นมากว่า 30 ปี จนถึงปัจจุบันยังไม่เคยมีการปรับปรุงใดๆ อย่างแท้จริง ทำให้อาจไม่ทันต่อสถานการณ์ปัจจุบัน จึงมีความเห็นว่าควรจะมีการปรับปรุงให้ทันต่อสถานการณ์ แต่ต้องใช้เวลา ไม่ได้ทำในทันที.
เครดิตข่าวโดย: เดลินิวส์