“บิ๊กตู่”ยันหลายโรงงานเลือกปิดตัวเอง ไม่เกี่ยวเศรษฐกิจเป็นพิษ

พล.อ.ประยุทธ์ ชี้โรงงานหลายที่ปิดตัวแบบสมัครใจ เพราะสู้ต้นทุนไม่ไหว พัฒนาสินค้าไม่ได้ ยันมีโรงงานเปิดใหม่เพิ่มอีก 3 เท่าตัว แต่วอนทุกฝ่ายต้องช่วยกันดันเศรษฐกิจ

วันที่ 24 ธันวาคม 2562 – พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ยอมรับว่าขณะนี้ภาวะเศรษฐกิจโลกมีการเปลี่ยนแปลง และทุกประเทศกำลังลำบาก แต่กระนั้นรัฐบาลก็หวังว่าปี 2563 ในช่วงไตรมาสแรกเศรษฐกิจของประเทศไทยจะดีขึ้น อย่างไรก็ตาม หวังว่าทุกคนจะมาช่วยกันผลักดันเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไปได้ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลก็ทำตลอด ทั้งมาตรการระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว

“หัวใจขับเคลื่อนประเทศมันคือเรื่องเศรษฐกิจ แต่หากเรามาคิดว่ามันไม่ดีเอาเลยก็อาจดูเหมือนว่าเกินไปหน่อย แต่หากเรามาร่วมกันสร้างความมั่นใจว่าเศรษฐกิจเดินหน้าได้อยู่ อาจจะน้อยบ้าง หรือชะลอตัว มันก็ยังเดิน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ประเด็นสำคัญคือการทำให้เศรษฐกิจฐานรากเกิดการหมุนเวียน ยิ่งหากภาครัฐเติมเงินเข้าไปช่วยด้วยทุกอย่างก็จะยิ่งดีขึ้น อย่างเช่นงาน โอท็อปซิตี้ 2019 ที่ผ่านมา มียอดขายรวมกันกว่า 1,372 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนได้ว่าสินค้าของชุมชนมีการพัฒนา และตรงกับความต้องการของตลาด หรือโครงการถนนคนเดินทั่วประเทศเองก็เช่นกัน มันจะทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้นทั่วประเทศ

นายกฯ กล่าวอีกว่า ในส่วนภาคการผลิตเองก็เช่นกัน ทุกคนก็ต้องมาร่วมมือทั้งผู้บริโภค และผู้ผลิต เพราะหากไม่มาทำร่วมกันก็จะกระเทือนถึงปัญหาเศรษฐกิจ ส่วนเรื่องการปลดพนักงาน ธุรกิจปิดตัวลง รัฐบาลก็มีมาตรการรองรับอยู่ และไม่อยากให้มาเหมารวมว่าโรงงานปิดตัว เลิกจ้าง เพราะปัญหาเศรษฐกิจ

“ไปดูกันดีๆ หลายโรงงานปิดตัวด้วยความสมัครใจเอง เพราะสู้ต้นทุนกันไม่ไหว หรือไม่สามารถพัฒนาสินค้าได้ ตามข้อมูลมีโรงงานปิดตัวไป 1,480 แห่ง แต่มีโรงงานเปิดใหม่เพิ่มกว่า 3 เท่าตัว มีการจ้างงานกว่า 178,733 คน เงินลงทุนหลายแสนล้านบาท แต่เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นทุกปี ทุกคนก็ต้องปรับเปลี่ยนตัวเอง แต่ยืนยันได้ว่าทุกวันนี้มีตัวเลขจ้างงานมากกว่าคนตกงาน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว