เอกชน เล็งขอสพฐ. ปี64 เลื่อนสอบครูผู้ช่วย เหตุร.ร.เดือดร้อนหาครูแทนไม่ทัน

เอกชน เล็งขอสพฐ. ปี’64 เลื่อนสอบครูผู้ช่วย เหตุร.ร.เดือดร้อนหาครูแทนไม่ทัน
เมื่อวันที่ 12 มีนาคม นายณัฐวุฒิ ภารพบ คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) เปิดเผยกรณีนายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ออกมาระบุว่าสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไม่สามารถทำตามคำขอของสมาคมคณะกรรมการประสานและส่งเสริมการศึกษาเอกชน (ส.ปส.กช.) ที่ขอให้ขยับปฏิทินการสอบครูผู้ช่วยให้เสร็จภายในเดือนเมษายนได้ เพราะเดือนเมษายนจะมีการสอบบุคลากรทางการศึกษาหลายอย่าง รวมถึงการสอบคัดเลือกรองผู้อำนวยการโรงเรียนด้วย หากขยับการสอบครูผู้ช่วยอีก คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) อาจไม่สามารถดำเนินการได้ทัน ว่า เรื่องนี้สร้างความลำบากให้กับโรงเรียนเอกชนอย่างมาก เพราะโรงเรียนไม่สามารถหาครูมาทดแทนได้ทัน เมื่อครูเอกชนผ่านการคัดเลือกจะลาออกเข้าไปเป็นครูในสังกัด สพฐ.ทันที โรงเรียนเอกชนส่วนใหญ่ต้องหาทางแก้ไขโดยต้องจ้างครูที่เกษียณเข้ามาสอนแทน ซึ่งในวันที่ 18 มีนาคมนี้ ตนจะเสนอเรื่องดังกล่าวให้ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ที่มีนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธาน พิจารณาเลื่อนการสอบครูผู้ช่วยในปีถัดไป เพราะตนเข้าใจว่าหากเลื่อนในปีนี้อาจไม่สามารถดำเนินการได้ทัน

“ทั้งนี้นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ. รับทราบปัญหาและพร้อมจะหาทางช่วยเหลือโรงเรียนเอกชนแล้ว เราได้เพียงแต่ขอความกรุณาและขอร้องให้การสอบครูผู้ช่วยของ สพฐ. ตั้งอยู่บนบรรทัดฐานที่จะไม่ทำให้โรงเรียนเอกชนเดือดร้อน ดำเนินการเสร็จสิ้นก่อนภายในเดือนเมษายน และขอสพฐ. อย่าเรียกบรรจุในช่วงที่โรงเรียนเปิดเทอม ให้เรียกบรรจุในช่วงปิดเทอม เพื่อให้โรงเรียนเอกชนเตรียมการรับมือได้ทัน”นายณัฐวุฒิกล่าว

นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ตนจะเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาแก้ไขปัญหาการรับอนุบาล 3 ขวบ ที่โรงเรียนในสังกัด สพฐ.ไม่ทำตามข้อกำหนดที่ สพฐ.ได้ตั้งไว้ ซึ่งในสมัยที่ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ ศธ. ออกมาตรการว่าหากโรงเรียนสังกัดสพฐ. ที่อยู่ใกล้เคียงกับโรงเรียน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และโรงเรียนในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ต้องการเปิดรับนักเรียนอนุบาล 3 ขวบ จะต้องมีหนังสือรับรองจากโรงเรียน สช.และ อปท.ที่อยู่ใกล้เคียงว่าถ้าเปิดรับนักเรียนแล้วโรงเรียนเหล่านี้จะไม่ได้รับผลกระทบ และมาเสนอให้คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) พิจาณาอนุมัติต่อไป แต่ที่ผ่านมาพบว่าโรงเรียน สพฐ.ไม่ยอมติดต่อมายังโรงเรียนเอกชนให้ออกหนังสือรองรับ กลับติดป้ายเปิดรับนักเรียนอนุบาล 3 ขวบ ทำให้ กศจ.จะต้องนั่งดูรายชื่อแต่ละโรงเรียนสพฐ. ที่เปิดรับว่าตั้งอยู่ใกล้โรงเรียนในสังกัด สช.หรือ อปท.หรือไม่ หากตั้งอยู่ใกล้กันไม่สามารถเปิดรับได้ แต่ถ้าโรงเรียนสังกัด สพฐ.ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล หรือพื้นที่นั้นไม่มีโรงเรียน สังกัด สช.และอปท.อยู่จึงสามารถเปิดรับนักเรียนอนุบาล 3 ขวบได้

“ทั้งนี้ผมจะขอเสนอให้ที่ประชุมเพิ่มเงินอุดหนุนรายหัวของโรงเรียนเอกชนด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาโรงเรียนเอกชนไม่ได้รับเงินค่าหัวเพิ่มตั้งแต่ปี 2560 แล้ว รวมทั้งขอเพิ่มงบอุดหนุนอาหารกลางวันของโรงเรียนเอกชน ให้ได้รับงบอุดหนุนอาหารกลางวันเพิ่มเป็น 50% จากเดิมที่ได้รับเพียง 28% เท่านั้น เพื่อให้นักเรียนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น” นายณัฐวุฒิกล่าว