สหภาพรัฐวิสาหกิจบินไทยรับสภาพ รัฐบาลไม่อุ้มปล่อยให้ศาลสั่งฟื้นฟู

จากกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha" ชี้แจงในประเด็นที่ภาครัฐจะไม่อุ้มการบินไทย และปล่อยให้เข้าสู้กระบวนการฟื้นฟู โดยการยื่นขอเข้ากระบวนการต่อศาล ทั้งยังให้เหตุผลว่า ประเทศไทยและทั้งโลกกำลังเผชิญวิกฤต "โควิด-19" ทำให้รายได้หดหาย จึงจำเป็นจะต้องรักษาเงินตราของประเทศไทยเอาไว้

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 19 พ.ค.นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ได้เรียกสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) และกองทุนวายุภักษ์ เข้าหารือสรุปแผนขายหุ้นการบินไทยของคลังให้กองทุนวายุภักษ์ภายใน1-2 วันนี้ เพื่อลดสัดส่วนการถือหุ้นจาก 51.03% เหลือ 47%และนำการบินไทยให้พ้นสภาพจากการเป็นรัฐวิสาหกิจก่อนยื่นฟื้นฟูกิจการผ่านศาลล้มละลายกลาง

จากนั้นจะเสนอให้คณะกรรมกองทุนการวายุภักษ์เห็นชอบต่อทันทีในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ประเด็นที่ต้องติดตามคือราคาขายหุ้นการบินไทยของคลังให้กองทุนวายุภักษ์ คาดว่าจะขายต่ำกว่าราคาตลาดที่ปัจจุบันอยู่ 4.50-4.70 บาท เพราะเมื่อขายไปแล้วจะต้องเข้าสู่กระบวนยื่นล้มละลายทันที ทำให้คลังต้องขาดทุนทันทีไม่ต่ำกว่า 600-700 ล้านบาทจากต้นทุนที่เคยซื้อมาถึงหุ้นละ 14 บาท

ขณะที่ นายนเรศ ผึ้งแย้ม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย กล่าวว่า กรณีที่กระทรวงการคลังลดสัดส่วนการถือหุ้นจนต้องสิ้นสภาพการเป็นรัฐวิสาหกิจ ซึ่งจะส่งผลให้สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย ต้องยุติบทบาทนั้น คงต้องยอมรับ และปรับเปลี่ยนการทำงานมาอยู่ในรูปแบบของสหภาพแรงงาน ภายใน พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 แทน

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อค่ำวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมาทาง "สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย" ได้มีแถลงการระบุเนื้อหาในทิศทางเดียวกับของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าทางสหภาพแรงงานฯ คือ แสดงจุดยืนเห็นด้วยกับแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ โดยผ่านทางกระบวนการของศาลล้มละลายกลาง ทั้งยังเชื่อมั่นว่าข้อเสนอในประเด็นนี้จะส่งผลดีต่อบริษัทการบินไทย ให้สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและผลกำไรดีกว่าเดิม แต่ในประเด็นลดสัดส่วนการถือหุ้นของกระทรวงการคลังนั้นสหภาพแรงงานฯไม่เห็นด้วย และจะขอคัดค้านให้ถึงที่สุด

เครดิตข่าวโดย: เดลินิวส์
เรื่องอื่นๆ

กรมที่ดิน

ก่อนหน้า