พว.ชวนปฏิรูปการศึกษาด้วยกระบวนการเรียนรู้ แทนท่องจำ

พว.ย้ำหัวใจสำคัญของกระบวนการปฏิรูปการเรียนรู้ คือ การเพิ่มคุณภาพผู้เรียน ด้วยวิธีการ ไม่ใช่เนื้อหา ชวนทุกฝ่ายทบทวนการปฏิรูปการศึกษาที่แท้จริง.

ดร.ศักดิ์สิน โรจน์สราญรมย์ ประธานกรรมการบริหารสถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ(พว.) กล่าวถึงการปฏิรูปการศึกษาว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ คนไทยยังยึดมั่นความคิดความเชื่อเดิม ๆ ว่า การเรียนคือการเรียนเนื้อหา จำเนื้อหา แข่งขันเนื้อหา สอบและวัดเนื้อหา แล้วก็ผูกคำว่าเนื้อหาว่าคือหลักสูตร ซึ่งเป็นความคิดเมื่อกว่า 50 ปีที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนจากการเน้นเนื้อหามาเน้นมาตรฐาน ตัวชี้วัด ความสามารถหรือสมรรถนะแทนการท่องจำเนื้อหา ทำให้กระบวนการเรียนรู้ต้องปรับเปลี่ยน ถึงแม้จะมีการปรับหลักสูตรมาแล้วหลายครั้ง แต่กระบวนการเรียนรู้เรายังไม่เปลี่ยน ทำให้ประเทศไทยยังไม่ประสบความสำเร็จในการปฏิรูปการศึกษา ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการทำความเข้าใจกันใหม่ว่า หลักสูตรคือแผนการจัดประสบการณ์เพื่อให้ผู้เรียนสามารถสร้างความรู้ได้เอง ซึ่งการเรียนรู้เพื่อสร้างความรู้นั้นจะมีทั้งเรื่องของมาตรฐานสมรรถนะ กระบวนการ รวมถึงคุณภาพในมิติต่าง ๆ ด้วย ฉะนั้นถ้าเราไม่สามารถก้าวข้ามความเข้าใจว่าการปรับหลักสูตร คือ การปรับเนื้อหา ไปได้ ประเทศไทยก็จะติดกับดักและเดินต่อไปไม่ได้

ดร.ศักดิ์สิน กล่าวต่อไปว่า จากเหตุผลดังกล่าวจึงอยากเชิญชวนให้ทุกฝ่ายมาร่วมกันทบทวนและทำความเข้าใจร่วมกันว่า การปฏิรูปการศึกษาแท้จริงแล้วคืออะไรกันแน่เพราะหัวใจสำคัญที่สุดของกระบวนการปฏิรูปการเรียนรู้ คือ การเพิ่มคุณภาพผู้เรียนด้วยวิธีการ เป็นการเรียนวิธีเรียนรู้ สอนวิธีเรียนรู้ ไม่ได้สอนเฉพาะเนื้อหาแบบแยกส่วนแต่สอนกระบวนการที่ไม่ยึดติดกับเนื้อหา เป็นรูปแบบการเรียนรู้แนวใหม่ ที่เรียกว่าActive Learning ซึ่งสอดคล้องกับศาสตร์พระราชาที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงวางไว้ให้เราเดินตามอย่างชัดเจน

“ผมดูยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ 11 ด้าน ทุกอย่างอิงการศึกษา แต่ปรากฏว่าคุณภาพการศึกษาของเรายังไปไม่ได้ ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วจะไปพัฒนาสังคมได้อย่างไรเพราะฉะนั้นการปฏิรูปการศึกษาด้วยกระบวนการเรียนรู้จะทำให้เด็กเข้าถึงสังคมฐานความรู้ การสร้างองค์ความรู้ได้ ซึ่งผมเชื่อว่าประเทศไทยมีต้นทุนสูงอยู่แล้วในการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้และสามารถปรับรูปแบบการจัดการเรียนการสอนไปสู่จุดนั้นได้แต่ขึ้นอยู่ว่าจะมีความจริงจังแค่ไหนที่จะทำเรื่องนี้”ดร.ศักดิ์สิน กล่าว

เครดิตข่าวโดย: dailynews
เรื่องอื่นๆ

กรมที่ดิน

ก่อนหน้า