หมอรามาฯ​ ยัน​ กัญชาไม่รักษามะเร็ง​

4 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันมะเร็งโลก หลังจากพบว่ามะเร็ง คือแชมป์อันดับ 1 ที่คร่าชีวิตคนทั่วโลก ปัจจุบันมีความเชื่อว่าหากใช้กัญชารักษามะเร็งแล้วจะหาย แต่ในความเป็นจริงแล้วแพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดีออกมายืนยันเรื่องนี้ว่าไม่เป็นความจริงและขอให้ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาตามมาตรฐานผศ.นพ.สหภูมิ ศรีสุมะ ภาควิชาอายุรศาสตร์ เภสัชวิทยา และพิษวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี บอกว่า ยังไม่มีข้อมูลการศึกษาที่เพียงพอที่จะสนับสนุนให้ใช้สารสกัดกัญชาเป็นยารักษาโรคมะเร็งเพียงแต่ใช้บรรเทาอาการตามข้อบ่งชี้เมื่อการรักษาตามมาตรฐานแล้วยังไม่ได้เป้าที่เพียงพอเท่านั้น

จากข้อมูลของศูนย์พิษวิทยารามาธิบดี พบผู้บาดเจ็บจากการใช้กัญชาและผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชาซึ่งมักเป็นการใช้โดยไม่มีการดูแล และแนะนำที่เหมาะสม มักเป็นผลิตภัณฑ์กัญชาที่ไม่มีการตรวจรับรองมาตรฐานและความปลอดภัย

แต่จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาที่ติดตามระบบการใช้กัญชาทางการแพทย์ที่ใช้ผลิตภัณฑ์มาตรฐานและใช้ตามแนวทางคำแนะนำของแพทย์พบว่า มีผลข้างเคียงน้อย

จะเห็นได้ว่ากัญชา ก็คือยาแบบหนึ่ง ใช้อย่างถูกต้องมีการแนะนำติดตามดูแลเหมาะสมก็มีประสิทธิภาพ แต่หากใช้แบบขาดความเข้าใจ ไร้มาตรฐานก็ทำให้เกิดการบาดเจ็บได้

มีคนไข้หลายรายที่ปฏิเสธการรักษาตามมาตรฐาน แล้วใช้กัญชาตามความเชื่อ เพื่อรักษาโรคมะเร็งแต่กลับมีผลข้างเคียงคือทำให้ตับและไตวาย ผลสุดท้ายพอ กลับมาเข้ารับการรักษาในแบบมาตรฐานก็สายเกินไปแล้ว

ด้าน รศ.พญ.ธัญนันท์ เรืองเวทย์วัฒนา ภาควิชาอายุรศาสตร์ มะเร็งวิทยา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี บอกว่า ปัจจุบันยังคงมีความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการใช้กัญชาทางการแพทย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื่อว่าสามารถฆ่าเซลล์มะเร็งได้ ซึ่งขอยืนยันว่าไม่สามารถทำได้ และยังคงต้องรอผลงานวิจัยยืนยันอีกหลายสิบปี ส่วนที่มีหลายกรณีผู้ป่วยที่มีการกล่าวอ้างถึงการกัญชาแล้วหายจากการเป็นโรคมะเร็งนั้น อาจเป็นผลจากการรักษาตามแบบการแพทย์มาตรฐานแบบใหม่มากกว่า

ส่วนความเชื่อที่ว่าหากเปลี่ยนจากการสูบบุหรี่ มาสูบกัญชาแล้วจะหลีกเลี่ยงการเป็นมะเร็งปอดได้ อันนี้ก็เป็นความเชื่อที่ผิดอีกเช่นเดียวกัน เพราะการสูดควันเข้าไปลงในปอดย่อมก่อให้เกิดอาการอักเสบ และเป็นที่มาของมะเร็งได้เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นใบยาสูบหรือว่าใบกัญชาแห้งก็ตาม

ทั้งนี้ ประเทศไทย ได้มีการประกาศกฎหมายกัญชาทางการแพทย์ตั้งแต่ปี 2562 โดยกรมการแพทย์ได้ประกาศให้ใช้โดยต้องสั่งจ่ายโดยบุคลากรทางการแพทย์ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรกัญชาทางการแพทย์ของกรมการแพทย์เท่านั้น ด้วยหลักฐานทางการแพทย์พบว่าประสิทธิผลไม่ได้ดีกว่าการรักษามาตรฐานและอาจมีประโยชน์หากใช้เป็นการรักษาเพิ่มเติมหากการรักษามาตรฐานไม่บรรลุเป้าหมายเท่านั้น

เครดิตข่าวโดย: Nation TV
เรื่องอื่นๆ

กรมที่ดิน

ก่อนหน้า